มทภ.4 – ผู้ว่าฯสงขลา ตรวจด่านปาดังเบซาร์ พบมีผู้ลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติ

ข่าววันนี้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 เม.ย.63 ที่จุดผ่านด่านถาวรปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อมนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอำพน พงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการ จ.สงขลา นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ารับคนไทยตกค้างในมาเลเซียผ่านด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา แทนด่านสะเดา ซึ่งปิดปรับปรุงชั่วคราว หลังจากตรวจพบเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสงขลา ปฏิบัติหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก

จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางไปยังหลักเขตที่ 17 ห่างจากด่านศุลกากรปาดังเบาร์ 7 กม.ซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติ ที่มีแรงงานต่างด้าวลักลอบใช้เป็นช่องทางเข้าประเทศ รวมทั้งเป็นจุดส่งยาเสพติดประเภทใบกระท่อม ทางทหาร กรมทหารราบที่ 5 ได้ทำการลาดตระเวนร่วมกับ ตชด. 437 ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถจับกุมตัว แรงงานต่างด้าวได้ 7 คน ส่ง สภ.สะเดา ดำเนินคดี

นอกจากนี้ แม่ทัพภาค 4 ได้เดินทักทายคนไทยที่จุดคัดกรองด้วยความเป็นห่วง และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองผู้เข้าข่ายเฝ้าระวัง โควิด-19 พร้อมให้สัมภาษณ์แสดงความมั่นใจว่า คนไทยในมาเลย์ที่เข้ามาไม่มีการติดเชื้อ กว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่พบคนไทยที่ลงทะเบียนกลับไทยติดเชื้อโควิท แม่แต่รายเดียว

“ตลอดแนว 640 กม. ดีขึ้นมาก ผมเพิ่งกลับมาจากจังหวัดสตูล ชาวบ้านให้ความร่วมมือ คนไทยที่เข้าไม่มีปัญหาเรื่องกักตัว 14 วัน ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้เฝ้าระวังคนไทยบางกลุ่ม ที่ลักลอบเข้าไปทำงานในมาเลเซียโดยผิดกฎหมายอาจจะใช้ช่องทางธรรมชาติกลับไทย โดยไม่ผ่านการคัดกรอง ซึ่งจะทำให้สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะมาเลเซียก็อยู่ในประเทศกลุ่มเสี่ยง” พล.ท.พรศักดิ์กล่าว

ด้าน นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าฯสงขลา กล่าวเพิ่มว่า การใช้ด่านปาดังเบซาร์ ชั่วคราวเพียง 7 วันซึ่งจะครบกำหนด 30 นี้ คณะกรรมการระดับจังหวัดได้พิจารณาเห็นว่าด่านปาดังซาร์มีความเหมาะสมหลายด้าน เช่น การแยกพื้นที่การขนส่งสินค้ากับช่องทางนักท่องเที่ยว มีความคล่องตัวของเจ้าหน้าที่คัดกรอง ไม่แออัด จึงได้นำเสนอให้ใช้ด่านปาดังเบซาร์จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ.