เมื่อวันที่ 3 ม.ค.65 จากกรณีที่มีในโลกออนไลน์การแชร์ข่าว พบผู้ป่วยโอมิครอนในพื้นที่จันทบุรีแล้วถึง 3 ราย โดยในเรื่องดังกล่าวล่าสุด ในเพจเฟซบุ๊กสำนักงานสาธารณสุข จันทบุรี ออกมาโพสข้อความยืนยันแล้วว่า ข่าวดังกล่าวเป็นความจริง
ต่อมา ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปยัง นพ.อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจันทบุรี เพื่อสอบถามข้อมูลที่แท้จริง โดยนายแพทย์สาธารณสุขจันทบุรี กล่าวยืนยันว่า จากผลการตรวจเชื้อโควิดกลายพันธุ์ “โอมิครอน” รอบที่ 2 จากห้องปฏิบัติการส่วนกลาง
พบว่าผลของผู้ป่วยทั้ง 3 ราย ติดเชื้อโอมิครอนจริงโดยเป็นการตรวจพบแบบการสุ่มเชื้อส่งไปตรวจสอบที่ส่วนกลางในจังหวัด ที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ล่าสุดขณะนี้ ผู้ป่วย 2 ราย เข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร ส่วนอีก 1 ราย เข้ารับการรักษาภายในจังหวัดจันทบุรี
จากการสอบสวนโรคเบื้องต้น ผู้ป่วยที่รักษาในจังหวัดพบว่า มีประวัติเดินทางไปท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จังหวัดชลบุรี
ส่วนผู้ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงสูง มีจำนวน 37 ราย ตรวจหาเชื้อแล้ว โดยทั้งหมดไม่พบการติดเชื้อ แต่ยังต้องกักตัว เฝ้าระวังโรคตามมาตรการอย่างเข้มข้น
ขณะที่ทาง สาธารณสุขจันทบุรี เพิ่มมาตรการ แนวทางควบคุมการแพร่ระบาดโอมิครอน แบบกลุ่มก้อนใหญ่ โดยขอให้ประชาชนที่เดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ต้องตรวจ ATK ก่อนกลับมาทำงาน / หน่วยงานราชการ และบริษัท
ทั้งนี้ให้ดำเนินการพิจารณาการ Work from Home ควบคู่กับมาตรการเชิงรุก ตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสูงของเจ้าหน้าที่ และในกลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ขอให้กักตัว 14 วัน
นอกจากนี้ ยังเร่งปูพรมฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 ให้ถึงร้อยละ 80 เพื่อลดอาการรุนแรงในกลุ่มเสี่ยง พร้อมกับการเตรียมความพร้อมของสถานที่กักตัว State Quarantine / Local Quarantine / โรงพยาบาลสนาม ส่วนการกักตัวแบบ Home Isolation ยังไม่อยากนำมาใช้ เนื่องจะยังมีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่คนในครอบครัวได้
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี กล่าวอีกว่า การติดเชื้อและอาการของโรคจากเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอน เหมือนกับโควิดสายพันธุ์อื่นๆ แต่โอกาสในการแพร่เชื้อสูง กว่า และคาดการณ์ว่าการระบาดของโอมิครอน น่าจะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลต้า ที่กำลังระบาดอยู่อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและดูแลตัวเองในเบื้องต้น ขอให้ประชาชนคิดเสมอว่าผู้ป่วยโควิด คือผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอน การดูแลตนเองให้ปลอดโรคต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้น การ์ดไม่ตก ใส่แมสก์ เว้นระยะห่าง ล้างมือ กินช้อนตัวเอง ไม่ไปในพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาด หรืองดการสังสรรค์ เพื่อร่วมลดการแพร่ระบาด ไม่ให้ขยายวงกว้างต่อไป